ในโลกยุคดิจิทัลแบบนี้ ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็มีการนำเสนอและรีวิวให้เราได้เห็นผ่านโลกออนไลน์และผ่านสื่อต่าง ๆ อยู่เสมอ แม้กระทั่งเรื่องของบ้านที่อยู่อาศัยต่าง ๆ วันนี้เราก็สามารถหา Content รีวิวบ้าน มาดูศึกษาล่วงหน้าเพื่อการตัดสินใจในอนาคตได้ด้วย
แต่คำถามก็คือ การจะลงทุนซื้อบ้านทั้งทีจะดูแต่รีวิวแล้วตัดสินใจซื้อนั้นดีหรือไม่ รีวิวบ้านที่เกิดขึ้นกับสื่อต่าง ๆ บนโลกออนไลน์เชื่อได้มากน้อยแค่ไหน แล้วถ้าเราไม่เชื่อรีวิวเหล่านั้น เราควรยึดหลักพิจารณาอย่างไรก่อนตัดสินใจเลือกซื้อบ้านสักหลัง เรามาหาคำตอบกัน
รีวิวเป็นข้อมูล แต่ไม่ควรเชื่อ 100%
อย่างที่เราเห็น ๆ กัน วันนี้อะไร ๆ ก็มีรีวิวให้เราได้เห็น แม้ Content รีวิวจะเป็นแหล่งข้อมูลที่ดีที่ช่วยทำให้การตัดสินใจในหลาย ๆ เรื่องของเราง่ายขึ้น แต่ในขณะเดียวกันสิ่งที่คุณจะต้องรู้ก็คือ Content รีวิวต่าง ๆ ย่อมมีเบื้องหลังและที่มาที่ไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดูรีวิวบ้าน ก็จะต้องใช้วิจารณญาณให้มาก เพราะบางครั้ง Content รีวิว อาจจะนำเสนอแต่มุมที่ดีของบ้าน แต่ไม่ได้นำเสนอจุดด้อยและปัญหา
ดังนั้น Content รีวิวบ้านเชื่อถือได้ไหม ก็ต้องบอกว่าเชื่อได้ แต่ไม่ 100% การจะลงทุนกับบ้านเพื่อใช้เป็นสถานที่พักอาศัยของเราทั้งชีวิต ทางที่ดีควรลงพื้นที่จริง สำรวจด้วยตัวเองเลยจะดีกว่า ใช้ข่าวสารข้อมูลจากการรีวิวนั้นเป็นแหล่งอ้างอิง ใช้เป็นข้อมูลประกอบได้ แต่ไม่ควรปักใจเชื่อแบบ 100%
อะไรบ้างที่เราควรจะต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อบ้าน
เมื่อการรีวิวเป็นเพียงข้อมูลประกอบการตัดสินใจบางส่วน ที่เหลือเราก็จะต้องมาพิจารณาด้วยตัวเองว่าจะตัดสินใจอย่างไร หลายคนอาจจะกำลังสับสนว่าแล้วจะยึดหลักอะไรบ้างในการพิจารณาก่อนตัดสินใจลงทุนกับบ้านสักหลัง คำแนะนำก็คือ
1. ไลฟ์สไตล์ของคุณเป็นอย่างไร
มองถึงวิถีชีวิตประจำวันของตนเองเป็นหลัก ว่าเราต้องใช้ชีวิตในแต่ละวันกับการเดินทางไปไหนบ้าง จริงอยู่ว่าหากเราซื้อบ้านที่อยู่ชานเมือง ก็จะได้บ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยมากกว่าบ้านที่อยู่ในตัวเมือง แต่ถ้าต้องแลกมากับการเดินทางที่ไกลขึ้น ใช้ระยะเวลามากขึ้น จะคุ้มค่าหรือไม่ ค่าเดินทางที่บวกรวมเวลาที่เสียไป หากคิดแล้วอาจเฉลี่ยสูงถึง 15 – 20% ของรายได้คุณเลยทีเดียว
อีกสิ่งก็คือ ไลฟ์สไตล์ในอนาคตของคุณ เช่นต่อไป ถ้าคุณมีลูก ครอบครัวขยายมากขึ้น บ้านก็จะต้องมีการขยับขยาย หากบ้านที่ซื้ออยู่ในเมืองพื้นที่ใช้สอยน้อย ก็อาจจะทำให้การขยับขยายนั้นทำได้ลำบาก
2. ทำเลและสภาพแวดล้อมมีความยืดหยุ่นหรือไม่
การซื้อบ้านควรเลือกซื้อในทำเลที่ดีมีความยืดหยุ่น และตรงกับความต้องการกับการใช้ชีวิตของคุณ เพื่อที่วันหนึ่งหากคุณคิดจะขายก็สามารถที่จะเปลี่ยนมือได้ง่ายและรวดเร็ว ทำเลบ้านที่ดีนั้นควรจะต้องเป็นทำเลที่มีการคมนาคมสะดวก มีสาธารณูปโภคครบครัน หรือคุณจะเลือกบ้านที่อยู่ในเขตที่กำลังมีการขยายตัวของเมืองก็ได้ ทำเลแบบนี้ถือเป็นทำเลที่มีความยืดหยุ่นสูงและน่าลงทุนมากเลยทีเดียว
3. โครงการและสภาพบ้านที่เป็นจริง
อย่างที่กล่าวไปเมื่อเราดูรีวิวอาจจะดี แต่อย่าลืมที่จะมาดูบ้านจริง ๆ และมาลองติดต่อเจ้าของโครงการด้วยตัวเองด้วย เพราะเรื่องจริงกับสิ่งที่เห็นในรีวิวอาจไม่เหมือนกันก็ได้
4. กำลังซื้อของตัวเอง
สุดท้าย เมื่อพิจารณาทุกอย่างแล้ว ก็ควรกลับมาทบทวนสำรวจกำลังซื้อของตนเองอีกครั้งก่อนตัดสินใจ การซื้อบ้านและการผ่อนบ้านนั้น มีสูตรการคำนวณอยู่ว่า ราคาบ้านที่จะซื้อไม่ควรเกิน 30 เท่าของรายได้ต่อเดือนในปัจจุบัน ถ้าคำนวณแล้วไม่มีปัญหา อยู่ในระดับที่จ่ายได้ ก็ตัดสินใจตามที่เห็นสมควรได้เลย
อย่าลืมว่าการซื้อบ้านเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ครั้งสำคัญของชีวิต จะซื้อทั้งทีควรคิดพิจารณาให้มาก อย่าเชื่อข้อมูลจากการดู Content รีวิวบ้านเพียงอย่างเดียว ใช้เป็นข้อมูลประกอบได้แต่อย่างไรก็ต้องใช้วิจารณญาณของตนเองประกอบด้วย แล้วคุณจะตัดสินใจเลือกบ้านได้ไม่มีพลาด